วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

ไขข้อข้องใจเรื่อง ขมับตอบ ข้างแก้มตอบ?



หมอได้รวบรวมข้อมูลหลายๆอย่างเพื่อหาคำอธิบายที่ครอบคลุมปัญหาขมับตอบ ข้างแก้มตอบ ซึ่งอาจจะไม่ครบถ้วนทั้งหมด แต่หมอก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านบ้าง ซึ่งหมอขอสรุปแยกเป็นเรื่องๆดังนี้ครับ

1.ทำไมจัดฟันแล้วขมับตอบ ข้างแก้มตอบ?
ก่อนอื่นหมอต้องขอชี้แจงก่อนว่าไม่มีความรู้เรื่องการจัดฟันใดๆเลยนะครับ ซึ่งหมอจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องกล้ามเนื้อเป็นหลัก โดยกล้ามเนื้อที่สำคัญในการบดเคี้ยวอาหารได้แก่

กล้ามเนื้อขมับ เทมโพราลิส (temporalis muscle) กล้ามเนื้อรูปพัดมัดนี้จะยึดเกาะบริเวณขมับทอดตัวลงไปหาส่วนปลายด้านหลังของขากรรไกรล่าง (coronoid process) ตามรูป เวลาบดเคี้ยวอาหารกล้ามเนื้อเทมโพลาลิสทำหน้าที่ดึงยกขากรรไกรล่างขึ้นและเฉียงไปด้านหลัง (backward)


- กล้ามเนื้อกราม แมสซีเตอร์ (masseter muscle) เป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ทอดตัวยึดเกาะระหว่างด้านข้างของกระดูขากรรไกรบน-ล่างและส่วนหลังของขากรรไกรล่าง (coronoid process) ตามรูป เวลาบดเคี้ยวอาหารกล้ามเนื้อแมสซีเตอร์จะทำหน้าที่ยกขากรรไกรล่างขึ้น




- กล้ามเนื้อเทอริกอยด์มัดใน(medial pterygoid muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ยึดเกาะอยู่ด้านในตำแหน่งตรงข้ามกับแมสซีเตอร์ เวลาบดเคี้ยวจะทำหน้าที่ยกขากรรไกรขึ้น




กล้ามเนื้อเทอริกอยด์มัดนอก (lateral pterygoid) เป็นกล้ามเนื้อที่ยึดจากกระดูดเทอริกอยด์ทอดตัวแนวนอนไปเกาะที่ส่วนหัวของกระดูกคอนดายส์ตามรูป เวลาบดเคี้ยวจะทำหน้าที่อ้าปากและยื่นขากรรไกรล่างไปด้านหน้า

ในระหว่างที่จัดฟันจะเกิดการเคลื่อนตัวของแนวฟันเพื่อจัดเรียงตัวใหม่ให้เหมาะสมและสวยงามในระหว่างนี้กล้ามเนื้อในการบดเคี้ยวจะไม่สามารถหดเกร็งตัวในการเคี้ยวอาหารได้อย่างเต็มที่ เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้เต็มที่เป็นระยะเวลานานๆก็จะทำให้ขนาดลีบเล็กลงตามมา จึงเกิดปัญหาขมับตอบซึ่งเกิดจากการลีบเล็กลงของกล้ามเนื้อขมับเทมโพลาริส และข้างแก้มตอบซึ่งเกิดจากการลีบเล็กลงของกล้ามเนื้อกรามแมสซีเตอร์ ลักษณะเช่นนี้นอกจากเกิดในคนที่กำลังจัดฟันแล้วยังสามารถเกิดได้ในคนที่ถอดฟันกรามออกหลายซี่ด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้ไม่เหลือฟันกรามในการบดเคี้ยวอาหาร ทำให้กล้ามเนื้อในการบดเคี้ยวค่อยๆลีบเล็กลงตามมาเช่นเดียวกัน
ปัญหาขมับตอบข้างแก้มตอบในคนที่จัดฟันจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อการจัดฟันเสร็จสิ้น โดยกล้ามเนื้อในการบดเคี้ยวจะค่อยๆมีขนาดโตขึ้นๆแต่อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นปีหรือหลายปีในบางคน ดังนั้นในทางความงามจึงนิยมฉีดเติมเต็มขมับตอบและข้างแก้มตอบด้วยฟิลเลอร์เพื่อให้รูปหน้าได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเลือกชนิดของฟิลเลอร์และความเข้มข้นที่เหมาะสมจะสามารถอยู่ได้นาน 1-3 ปี

2.ทำไมเมื่อเราอายุมากขึ้นจึงเกิดขมับตอบและข้างแก้มตอบ?
ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณใบหน้าของเราจะมีส่วนที่อยู่ตื้น (superficial fat)และส่วนที่อยู่ลึก (deep fat) เมื่อเราอายุมากขึ้นชั้นไขมันใต้ผิวหนังส่วนที่อยู่ตื้นจะค่อยๆบางลง ซึ่งบริเวณขมับและข้างแก้มหน้าหูเป็นส่วนที่มีไขมันชนิดนี้อยู่เท่านั้น ทำให้บริเวณขมับและข้างแก้มหน้าหูจะค่อยๆยุบตัวและตอบลงเมื่ออายุมากขึ้น ในขณะที่ไขมันใต้ผิวหนังส่วนที่อยู่ลึกจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งไขมันชนิดนี้จะพบได้ที่เหนือร่องแก้มและด้านข้างคาง จึงพบว่ามีชั้นไขมันหนานูนเป็นสันเหนือร่องแก้มทำให้มองเห็นร่องแก้มที่ลึกมากขึ้น และมีไขมันพอกพูนบริเวณแก้มด้านข้างคางมองเห็นเป็นแก้มหย่อนคล้อยตามมา

ขอขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ : wikimedia และ is.wayne.edu

หากสนใจปรึกษาหรือรับแนวทางการรักษาสามารถสอบถามหมอได้ทุกช่องทางตามความสะดวกครับ


**  รักษ์-คุณคลินิก **
- สาขาโลตัส ทาวน์อินทาวน์ โทร.02-9346185,0863551067
Website : www.rukkhunclinic.com
Fanpage : www.facebook.com/rukkhunclinic
Google Plus : plus.google.com/+ธนิตศักดิ์วิบูลกุลเศรษฐ์
LINE ID : @rukkhunclinic

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

คำถามเกี่ยวกับดึงยกกระชับด้วยไหมเงี่ยง





1. ไหมเงี่ยงคืออะไร..??
ไหมเงี่ยง คือไหม PDO ขนาดใหญ่ซึ่งถูกทำให้มีเงี่ยงไว้สำหรับยึดเกาะในการดึงรั้งผิวหนัง จึงเรียกว่า Barb PDO ไหมเงี่ยงมีความแข็งแรงมาก จึงสามารถดึงรั้งได้ค่อนข้างเยอะ

2. ไหมเงี่ยงช่วยเรื่องอะไร..??
2.1) ไหมเงี่ยงใช้ในการป้องกันความหย่อนคล้อยของแก้ม เช่น คนที่ฉีดโบทูลินั่มลดกรามแล้ว ซึ่ง เมื่อกรามเล็กลง มักจะเกิดปัญหาแก้มหย่อนคล้อยตามมา ไหมเงี่ยงจึงช่วยดึงกระชับประคองเอาไว้ไม่ให้แก้มหย่อนเมื่อกรามเล็กลง
2.2) ไหมเงี่ยงใช้ดึงยกกระชับในคนที่เกิดปัญาหาแก้มหย่อนคล้อยแล้ว ซึ่งผลที่ได้จะขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของแก้มว่ามีมากน้อยแค่ไหน ในบางคนอาจจะต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ฉีดโบทูลินั่มท็อกซินช่วยยกกระชับ

3. ดึงยกกระชับด้วยไหมเงี่ยงอันตรายหรือไม่..??
ไหมเงี่ยง หรือ Barb PDO สามารถละลายหายไปได้เอง เช่นเดียวกับไหมละลาย PDO แบบเดิม โดยไหมเงี่ยงจะละลายหายไป ประมาณ 1-1.5 ปี จึงไม่เป็นอันตราย

4. ร้อยไหมเงี่ยงแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน.???
หลังจากดึงยกกระชับด้วยไหมเงี่ยงในช่วง 1-3 เดือนแรก แก้มที่ถูกยกกระชับขึ้นจะเกิดจากความแข็งแรงของเส้นไหมในการดึงรั้งเป็นหลัก และร่างกายจะสร้างคอลลาเจนห่อหุ้มเส้นไหมไปเรื่อยๆจนกว่าไหมเงี่ยงจะละลายหมด ใน 1-1.5 ปี โดยคอลลาเจนที่สร้างมาห่อหุ้มนั้นจะมีความแข็งแรงช่วยประคองกระชับแก้มได้ต้องรอเวลาประมาณ 3-6 เดือน

5. หลังจากดึงยกชับแก้มด้วยไหมเงี่ยง ต้องพักฟื้นหลังทำหรือไม่.??
หลังทำอาจจะมีรอยเขียวช้ำ บวม เล็กน้อย ซึ่งน้อยกว่าการร้อยไหม PDO แบบเดิม นอกจากนี้อาจจะมีรอยรั้งของผิวหนัง มองเห็นเป็นลักษณะคล้ายคลื่นบนผิว ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นการดึงยกกระชับด้วยไหมเงี่ยง จึงแทบไม่ต้องพักฟื้นเลย

6. การดึงยกกระชับด้วยไหมเงี่ยง สามารถทำบ่อยๆได้หรือไม่..??
หลังการร้อยไหมเงี่ยงไปแล้ว 3 เดือน หากต้องการให้แก้มยกกระชับมากขึ้นไปอีกสามารถกลับมาทำเพิ่มได้

ข้อปฏิบัติของการร้อยไหมเงี่ยง
1. ควรทานยาปฏิชีวนะ ป้องกันการติดเชื้อร่วมกับทานยาลดบวมให้ครบตามที่เเพทย์สั่ง
2. ควรรัดกระชับผ้าที่แพทย์จัดให้ เพื่อช่วยประคองและลดอาการบวม ตามคำแนะนำ ถึงแม้หลังทำจะไม่มีรอยเขียวช้ำก็ตาม
3. ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง อ้าปากกว้างๆ หลังจากทำในช่วง 1 เดือนแรก
4. งดทำทรีตเมนต์หน้าใดๆ 1 เดือน และงดทำเลเซอร์ เทอร์มาจ อัลเทอล่า ในช่วง 1-3 เดือนแรก


หากสนใจปรึกษาหรือรับแนวทางการรักษาสามารถสอบถามหมอได้ทุกช่องทางตามความสะดวกครับ


** รักษ์-คุณคลินิก **
- สาขาโลตัส ทาวน์อินทาวน์ โทร.02-9346185,0863551067

Website : http://www.rukkhunclinic.com

Fanpage : https://www.facebook.com/rukkhunclinic

Google Plus : plus.google.com/+ธนิตศักดิ์วิบูลกุลเศรษฐ์

LINE ID : @rukkhunclinic

โปรไฟลุก ยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี

  โปรไฟลุกยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี 300 ชอต 3,000 บาท จองโปรโมชั่นหรือ ปรึกษาเพิ่มเติม *อินบ๊อกให้หมอมาได้เลย หรือ ID Line:@rukkhuncl...