วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การร้อยไหมละลาย PDO


ร้อยไหมละลาย PDO

           เมื่อ 2 ปี ที่แล้วประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2554 หมอได้เดินทางไปกรุงโซลประเทศเกาหลี เพื่อดูงานเครื่องมือแพทย์ KIMES exhibition fair ทุกๆปีจะจัดที่ Coex exhibition center ( คนเกาหลีเขาออกเสียงว่า โค เอ็ก สึ ) ระหว่างที่เดิน ชมเครื่องมือแพทย์ก็เหลือบไปเห็นบูธเล็กๆเอาทีวีมาเปิดให้ดู มีเข็มเสียบหน้าอยู่เต็มไปหมด ยืนดูอยู่สักพักจึงเข้าใจว่าเขาทำเพื่ออะไร เกิดความสนใจเลยไปลงชื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย ตอนนั้นมีคุณหมอคนไทย 2 ท่านได้ลงชื่อเอาไว้แล้วเช่นกัน ( ต่อมา 1 ใน 2 ท่านก็ได้เป็นตัวแทนไป ) หลังจากกลับมาจากเกาหลีได้เดือนเดียวก็มีการนำการร้อยไหมละลายเข้ามาสาธิตใน ไทยซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติ สร้างความแตกตื่นในวงการคลินิกความงามอย่างมาก บริษัทต่างๆพยายามแข่งกันทำการตลาดนำไหม PDO ( Polydioxanone) เข้ามาขายในไทยกัน ช่วงนั้นหมอจำได้ว่าใครอยากเรียนจะต้องไปเรียนที่เกาหลีและมียอดสั่งกันหลายแสน หมอ เองก็โดนไปกับเขาด้วยเช่นกัน ^^  จากนั้นภายใน 3 เดือนการร้อยไหมละลายเป็นที่นิยมมากในประเทศเราอย่างไม่น่า เชื่อ อัตราค่าบริการเส้นละ3,000บาทกันเลยทีเดียว (ตอนนั้นคลินิกหมอตั้งราคา 1,200 บาทต่อเส้น ) จากเดิมที่มีไหม PDO เพียงยี่ห้อเดียวต่อมามีเพิ่มอีกมากกว่า 5 ยี่ห้อภายใน 3 เดือน ซึ่งพอจะบอกได้ว่าขายดีกันมากแค่ไหนนะครับ ภายใน 6 เดือนการร้อยไหมเป็นบริการหลักในคลินิกความงาม เครื่องมือแพงๆที่ซื้อมาฝุ่นเกาะกันเลยทีเดียวเพราะใครๆเข้ามาในคลินิกก็ อยากร้อยไหม นอกจากนี้มีการพัฒนาเทคนิคการร้อยไหมกันแบบก้าวกระโดด เช่น ร้อยไหมลดรอยย่นหน้าผาก ยกคิ้ว ลดรอยขมวดคิ้ว ร้อยไหมลดรอยตีนกา ร้อยไหมทำตาสองชั้น ร้อยไหมใต้ตา ร้อยไหมแก้มลูกส้ม ร้อยไหมเสริมจมูก ร้อยไหมร่องแก้ม ร้อยไหมยกมุมปาก ร้อยไหมปากเซ็กซี่ ร้อยไหมยกแก้มที่ห้อย ร้อยไหมลดกรามให้หน้าเรียว ร้อยไหมกระชับสัดส่วน และมีแม้กระทั่งร้อยไหมกระชับช่องคลอดครับ...( หมอเองก็ฝึกทุกอย่างยกเว้นอัน สุดท้ายที่ขอผ่านไม่ทำครับ ) 


ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมครับ เมื่อหมอร้อยไหมกันมากขึ้น (คลินิกไหนๆ ก็ทำ) ปัญหาและผลข้างเคียงต่างๆจึงเกิดตามมาครับ เช่นเดียวกันกับการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่งเมื่อคนทำกันเยอะๆ เราจะสังเกตุเห็นว่า คนนี้จมูกเอียงเบี้ยว คนนี้ทำแกนใหญ่ไป อีกคนก็ปลายสั้นไปนิดไม่มีหยดน้ำ บางคนโชคร้ายทำแล้วติดเชื้อเน่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผ่าตัดเสริมจมูกไม่ควรทำครับ เพราะเป็นผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้และแพทย์แต่ละท่านก็พยายามป้องกัน ผลข้างเคียงเหล่านั้นอย่างสุดความสามารถแล้ว กลับมาที่ผลข้างเคียงการร้อยไหมละลาย PDO กันครับ เมื่อมีการทำมากขึ้นความผิดพลาดจากเทคนิคการทำก็เห็นได้ชัดครับ เช่น มีบวมและรอยเขียวช้ำอย่างน่าตกใจ ร้อยตื้นไปมองเห็นเส้นไหมที่หน้า (ตกใจอีก) มีการอักเสบเป็นหนองจากการติดเชื้อ (อันนี้เรื่องใหญ่ หมอที่ทำก็ตกใจตาม) บางคนอาจจะมีปลายไหมโผล่ออกมาสามารถคลำได้ (ซึ่งต้องมาให้หมอสะกิดแล้วตัดออก ครับ) และในคนที่ร้อยไหมเสริมจมูกอาจมีไหมโผล่ออกมาจากปลายจมูก และที่สำคัญอีกอย่างคือค่าใช้จ่ายที่สูงมากครับ (ตกใจตอนจ่ายตังค์) ประกอบกับมีการแข่งขันทางการตลาดระหว่างคลินิกความงามด้วยกันเองจึงเกิด คำถามที่ว่า "การร้อยไหมเกิดคอลลาเจนหรือผังผืด???" ซึ่งมีคนถามหมอเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะครับ หมออยากให้เราถามตัวเองว่าคอลลาเจนคืออะไร? แล้วผังผืดคืออะไร? แล้วเราจะทราบว่าทั้งสองอย่างคือสิ่งเดียวกันครับ หากเราสามารถกำหนดได้ว่าให้เกิดผังผืดในแนวไหนเพื่อให้ผังผืดนั้นช่วยยก กระชับใบหน้าหรือแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แล้วเราจะยังเรียกว่าผังผืดหรือจะเรียกว่าคอลลาเจนครับ เช่นเดียวกับแผลเป็นที่มือเราซึ่งก็คือเนื้อเยื่อของเรา (คอลลาเจน) แต่เราเรียกว่าแผลเป็นเพราะไม่สวยและไม่มีประโยชน์ หลายท่านอาจจะเคยทำเทอร์มาจซึ่งเป็นการใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุมาทำลายคอ ลลาเจนเก่าให้ตายไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา เพื่อให้หน้ากระชับตึงขึ้นนั่นก็เป็นอีกตัวอย่างที่เอาผังผืดมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ เราเลยเรียก "คอลลาเจน"


จากที่หมอได้ร้อยไหมละลายมาประมาณ 2 ปีเต็มๆ และจากได้มีโอกาสเข้าฟังงานประชุมวิชาการเรื่องร้อยไหมละลายหลายๆครั้ง พอจะสรุปเกี่ยวกับการร้อยไหมแบบกระชับดังนี้นะครับ

1. ร้อยไหมไม่ได้อันตรายเลยหากทำด้วยเทคนิคที่ดีพอ

2. ผลของการร้อยไหมขึ้นอยู่กับ

-เทคนิคในการดีไซน์ให้เกิดแนวของผังผืดหรือคอลลาเจนที่จะให้ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยเป็นสำคัญ(ร้อยแบบใส่ไปเรื่อยไม่ดีแน่ๆครับ)

-จำนวนไหมที่ใช้ หากใช้ไหมมากเห็นผลชัดครับ

3.ร้อย ไหมละลายไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องเช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว ยกคิ้ว และลดกรามซึ่งทั้งหมดควรแก้ไขด้วยการฉีดโบทอกซ์จะดีที่สุดครับ

4. หลังทำควรรับประทานยาปฏิชีวนะและยาลดบวมพร้อมทั้งมาพบแพทย์ตามนัด (ส่วนใหญ่สวยแล้วจะไม่กลับมาครับ)

5.ไหมละลาย PDO สามารถละลายได้ใน 6 เดือนถึง 1 ปีจริง เพราะมีการทดสอบและวิจัยทางการแพทย์ก่อนแล้วจึงได้จัดอยู่ในกลุ่มที่ละลายได้

ปัจจุบัน ตัวหมอเองร้อยไหมเฉพาะเทคนิค V shape เท่านั้นครับ ซึ่งถือว่าเห็นผลชัดเจนที่สุดและไม่มีผลข้างเคียงอะไรที่จะต้องกังวลครับ สามารถทำได้ตั้งแต่ข้างละ 5 เส้นขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ร้อยเองและสภาพความหย่อนคล้อยของแก้มครับ หลังทำ 2-4 สัปดาห์จะรู้สึกได้ว่าใบหน้ากระชับขึ้น และอาจจะทำร่วมกับการฉีดโบท็อกซ์ก็ได้ครับ

ตัวอย่างการร้อยไหม
http://www.youtube.com/watch?v=yNZacywXMvM สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ช่องทางติดต่อ..รักษ์คุณ คลินิก
– สาขาโลตัส ทาวน์อินทาวน์ โทร. 02-9346185,0863551067
Google Plus : gplus.to/rukkhunpage
ID Line : @rukkhunclinic


*มีปัญหากังวลใจปรึกษาได้ทุกช่องทางตามสะดวก ด้วยความยินดีครับ^^

โปรไฟลุก ยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี

  โปรไฟลุกยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี 300 ชอต 3,000 บาท จองโปรโมชั่นหรือ ปรึกษาเพิ่มเติม *อินบ๊อกให้หมอมาได้เลย หรือ ID Line:@rukkhuncl...