วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วี-เวกเตอร์ กุญแจสู่ความอ่อนวัย



V-Vector
เมื่อเราอายุมากขึ้นผิวหนังของเราจะเสื่อมสภาพทำให้ความยืดหยุ่นน้อยลง และปริมาณไขมันใต้ผิวหนัง,หน้าผากและข้างแก้มลดลง ประกอบกับมีการยุบตัวของกระดูกทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของใบหน้าจากที่เคยมี รูปหน้า V-Shape กลายเป็น U-Shape  มีแก้มหย่อนตามมาอย่างชัดเจน
             ปัจจุบันมีเทคโนโลยีความงามต่างๆมากมายมาช่วยย้อนวัยจากรูปหน้า U-Shape ให้กลับไปเป็น V-Shape หรือที่เรียกว่า V-Vector เช่น การฉีดฟิลเลอร์ ,การร้อยไหม ,การดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือการฉีดโบท็อกซ์ เป็นต้น ด้วยเทคนิคความงามต่างๆ เหล่านี้ทำให้อัตราการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าลดลงอย่าง เห็นได้ชัด บางคนเข้ารับบริการความงามตั้งแต่อายุยังน้อยจึงช่วยชะลอความหย่อนคล้อย เมื่ออายุมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยอย่างชัดเจน  โดยแพทย์แต่ละท่านจะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีที่เหมาะสมตามสภาพปัญหาของแต่ ละคน  วันนี้หมอจะขอกล่าวถึงกุญแจสู่ความอ่อนวัยดอกที่  1 ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนรูปหน้าของเราจาก U-Shape  ให้กลายเป็น  V-Shape

จากรูปที่หมอนำมาประกอบจะพบว่า กล้ามเนื้อบนใบหน้าและลำคอของเราส่วนใหญ่จะหดตัวในลักษณะดึงยกขึ้นหรือดึงลง ตามแนวลูกศร หากกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงลงแข็งแรงมากกว่ากล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึง ขึ้นรูปหน้าของเราก็จะหย่อนคล้อยเป็น  U-Shape ดังนั้น เมื่อเราฉีดโบทอกไปยังกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ดึงลงจะทำให้กล้ามเนื้อเหล่า นี้อ่อนแรง และส่งผลให้กล้ามเนื้อที่หดตัวในแนวดึงขึ้นสามารถดึงยกผิวหน้าได้แรงเพิ่ม ขึ้นมากกว่าเดิม ตามแนว วี-เวคเตอร์ นอกจากการฉีดโบท็อกไปยังตำแหน่งกล้ามเนื้อเหล่านี้แล้ว ยังสามารถฉีดโบท็อกเข้าสู่ชั้นผิวหนังตื้นๆตามขอบหน้าหรือที่เรียกว่า เดอร์โมลิฟท์ เทคนิค จะช่วยให้ผิวหนังหดตัวตามขอบหน้า และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวหนังบริเวณขอบหน้า ตามผลการวิจัยของแพทย์เกาหลีผู้คิดค้นเทคนิคนี้    การฉีดโบท็อกเพื่อให้ได้รูปหน้าตามแนว วี-เวคเตอร์ เหมาะสำหรับกรณีที่ยังหย่อนคล้อยไม่มากหรือช่วยชะลอไม่ให้เกิดการหย่อนคล้อย เมื่ออายุมากขึ้น  เพียงทำปีละ 1-2 ครั้ง โดยเทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัยสูงมากและหมอมองว่าเป็นอีกหนึ่ง กุญแจสู่ความอ่อนวัยสำหรับท่านที่สนใจครับ

  •  ปรึกษาการปรับรูปหน้า
ID LINE : @rukkhunclinic
Website : http://www.rukkhunclinic.com
Google Plus : plus.google.com/+ธนิตศักดิ์วิบูลกุลเศรษฐ์
Facebook : http://www.facebook.com/rukkhunclinic

สอบถามข้อมูลอื่นๆ 
เพิ่มเติมได้ทุกสาขาครับ
รักษ์-คุณคลินิก สาขาโลตัส ทาวน์อินทาวน์ โทร.02-9346185,0863551067

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์


การปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์


หลายคนคงรู้จักแล้วว่า โบท็อกซ์ คือสาร Botulinum Toxin Type A ซึ่งเป็นสารโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง คือ Clostridium botulinum (คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม) โดยสารโบทูลินั่มจะยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อทำให้ไม่สามารถหดตัวได้เหมือนปกติ

ครั้งนี้หมอขอกล่าวถึงอีกแง่มุมหนึ่งของการนำโบท็อกซ์มาใช้ในการปรับรูปหน้า เพื่อให้ได้ใบหน้ารูปไข่ หรือรูปวีเชฟ ดังรูป







หลายคนคงเคยฉีดโบท็อกซ์ลดกรามมาแล้ว เมื่อกรามเล็กลงมากๆ จะรู้สึกเหมือนโหนกแก้มโตขึ้น ศรีษะโตขึ้น แทนที่จะได้รูปหน้าเป็นรูปไข่ หรือวีเชฟตามที่ต้องการ แต่กลับได้รูปหน้าลักษณะศรีษะโตคางแหลมคล้ายหัวมดมาแทน



นั่นเป็นเพราะเราฉีดลดกรามมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อกรามลีบเล็ก ขณะที่บริเวณโหนกแก้มและศรีษะไม่ได้เล็กตามไปด้วย ดังนั้นถ้าเราสามารถลดกรามให้เล็กลง ลดโหนกแก้มลงอีกนิด ลดศรีษะลงอีกหน่อย เราก็จะได้รูปหน้าที่เป็นวีเชฟและใกล้เคียงรูปไข่มากขึ้น




ในบางคนอาจจะพบว่ามีกล้ามเนื้อขมับด้านข้างศรีษะ (Temporalis) มีขนาดโตมากๆจนสามารถสังเกตเห็นได้เวลากัดฟันแน่นๆ การฉีดโบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อมัดนี้ก็จะช่วยให้รูปหน้าด้านบนสวยขึ้น

ส่วนบริเวณโหนกแก้มที่ดูโตเด่นชัดนั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากกระดูกโหนกแก้ม (Zygomatic bone)มีขนาดใหญ่ การแก้ไขจะต้องผ่าตัดลดขนาดกระดูกลง ส่วนการฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้มนั้นเป้าหมายคือเพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อที่เกาะอยู่บนกระดูกโหนกแก้มเป็นสำคัญ เพราะในบริเวณกระดูกโหนกแก้มมีกล้ามเนื้อหลายมัดมาเกาะทับซ้อนกันอยู่ ทั้งกล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis oculi) กล้ามเนื้อที่ช่วยในการยิ้ม (Levator labii superioris Zygomatic Major &amp ; Minor) กล้ามเนื้อกราม (Masseter) และกล้ามเนื้อขมับ (Temporalis) สังเกตง่ายๆเวลายิ้มโหนกแก้มเราจะชัดขึ้น ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์ลดโหนกแก้มจึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเหลากระดูกโหนกแก้มครับ

สำหรับการปรับลดรูปหน้าส่วนล่างก็สามารถทำได้ง่ายโดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อกราม (Masseter)หรือที่เรียกกันว่า โบท็อกซ์ลดกราม โบท็อกซ์กราม ซึ่งหมอได้เขียนไว้เป็นความรู้โดยละเอียดในบทความเรื่องโบท็อกซ์ลดกราม http://rakkhunclinic.blogspot.com/p/blog-page_4667.html ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอหลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามคือ ฉีดมากไปข้างแก้มก็ตอบ ฉีดน้อยไปกรามก็ไม่ลด ซึ่งต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และศิลปะของคุณหมอแต่ละท่าน

และ ส่วนสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันนักและไม่เคยมีใครมาขอให้หมอฉีดให้เลย มีแต่หมอเป็นคนขอฉีดให้เอง นั่นคือการฉีดโบท็อกซ์คลายกล้ามเนื้อที่ปลายคาง เรียกง่ายๆว่า โบท็อกซ์คาง เพื่อให้ปลายคางโค้งมนสวยขึ้น สังเกตง่ายๆเมื่อเราทำให้ริมฝีปากบนและล่างไม่แตะกันจะพบว่าคางเราดูยาวและ สวยขึ้น แต่เมื่อเราประกบริมฝีปากบนและล่างเข้าหากันจะพบว่าคางของเราดูสั้นลงทันที เพราะกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Mentalis หดตัวคางจึงดูสั้นลง การฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อมัดนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อให้คางดูยาวขึ้น ช่วยให้รูปหน้าได้รูปไข่และดูวีเชฟมากขึ้น

จากทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นวิธีการที่เรียกว่า การปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์ ซึ่งในทางปฏิบัติจริงต้องประเมินรูปหน้าของแต่ละคน ปริมาณตัวยาที่ใช้ ความเข้มข้นของตัวยาและตำแหน่งที่ฉีดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์แต่ละท่านครับ

หากสนใจปรึกษาหรือรับแนวทางการรักษาสามารถสอบถามได้ทุกช่องทางตามความสะดวกครับ



ช่องทางติดต่อ..รักษ์คุณ คลินิก
– สาขาโลตัส ทาวน์อินทาวน์ โทร. 02-9346185,0863551067
ID Line : @rukkhunclinic



*ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ

โปรไฟลุก ยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี

  โปรไฟลุกยกกระชับแก้มด้วยเทอร์มาจเกาหลี 300 ชอต 3,000 บาท จองโปรโมชั่นหรือ ปรึกษาเพิ่มเติม *อินบ๊อกให้หมอมาได้เลย หรือ ID Line:@rukkhuncl...