
ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมครับ เมื่อหมอร้อยไหมกันมากขึ้น(คลินิกไหนๆก็ทำ) ปัญหาและผลข้างเคียงต่างๆจึงเกิดตามมาครับ เช่นเดียวกันกับการผ่าตัดเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแท่งเมื่อคนทำกันเยอะๆ เราจะสังเกตุเห็นว่า คนนี้จมูกเอียงเบี้ยว คนนี้ทำแกนใหญ่ไป อีกคนก็ปลายสั้นไปนิดไม่มีหยดน้ำ บางคนโชคร้ายทำแล้วติดเชื้อเน่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผ่าตัดเสริมจมูกไม่ควรทำครับ เพราะเป็นผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้และแพทย์แต่ละท่านก็พยายามป้องกัน ผลข้างเคียงเหล่านั้นอย่างสุดความสามารถแล้ว กลับมาที่ผลข้างเคียงการร้อยไหมละลายPDOกันครับ เมื่อมีการทำมากขึ้นความผิดพลาดจากเทคนิคการทำก็เห็นได้ชัดครับ เช่น มีบวมและรอยเขียวช้ำอย่างน่าตกใจ ร้อยตื้นไปมองเห็นเส้นไหมที่หน้า(ตกใจอีก) มีการอักเสบเป็นหนองจากการติดเชื้อ(อันนี้เรื่องใหญ่ หมอที่ทำก็ตกใจตาม) บางคนอาจจะมีปลายไหมโผล่ออกมาสามารถคลำได้(ซึ่งต้องมาให้หมอสะกิดแล้วตัดออก ครับ) และในคนที่ร้อยไหมเสริมจมูกอาจมีไหมโผล่ออกมาจากปลายจมูก และที่สำคัญอีกอย่างคือค่าใช้จ่ายที่สูงมากครับ(ตกใจตอนจ่ายตังค์) ประกอบกับมีการแข่งขันทางการตลาดระหว่างคลินิกความงามด้วยกันเองจึงเกิด คำถามที่ว่า "การร้อยไหมเกิดคอลลาเจนหรือผังผืด???" ซึ่งมีคนถามหมอเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะครับ หมออยากให้เราถามตัวเองว่าคอลลาเจนคืออะไร? แล้วผังผืดคืออะไร? แล้วเราจะทราบว่าทั้งสองอย่างคือสิ่งเดียวกันครับ หากเราสามารถกำหนดได้ว่าให้เกิดผังผืดในแนวไหนเพื่อให้ผังผืดนั้นช่วยยก กระชับใบหน้าหรือแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แล้วเราจะยังเรียกว่าผังผืดหรือจะเรียกว่าคอลลาเจนครับ เช่นเดียวกับแผลเป็นที่มือเราซึ่งก็คือเนื้อเยื่อของเรา(คอลลาเจน) แต่เราเรียกว่าแผลเป็นเพราะไม่สวยและไม่มีประโยชน์ หลายท่านอาจจะเคยทำเทอร์มาจซึ่งเป็นการใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุมาทำลายคอ ลลาเจนเก่าให้ตายไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา เพื่อให้หน้ากระชับตึงขึ้นนั่นก็เป็นอีกตัวอย่างที่เอาผังผืดมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ เราเลยเรียก "คอลลาเจน"
จากที่หมอได้ร้อยไหมละลายมาประมาณ2ปีเต็มๆและจากได้มีโอกาสเข้าฟังงานประชุมวิชาการเรื่องร้อยไหมละลายหลายๆครั้ง พอจะสรุปเกี่ยวกับการร้อยไหมแบบกระชับดังนี้นะครับ
1.ร้อยไหมไม่ได้อันตรายเลยหากทำด้วยเทคนิคที่ดีพอ
2.ผลของการร้อยไหมขึ้นอยู่กับ
-เทคนิคในการดีไซน์ให้เกิดแนวของผังผืดหรือคอลลาเจนที่จะให้ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยเป็นสำคัญ(ร้อยแบบใส่ไปเรื่อยไม่ดีแน่ๆครับ)
-จำนวนไหมที่ใช้ หากใช้ไหมมากเห็นผลชัดครับ
3.ร้อย ไหมละลายไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่องเช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว ยกคิ้ว และลดกรามซึ่งทั้งหมดควรแก้ไขด้วยการฉีดโบทอกซ์จะดีที่สุดครับ
4. หลังทำควรรับประทานยาปฏิชีวนะและยาลดบวมพร้อมทั้งมาพบแพทย์ตามนัด(ส่วนใหญ่สวยแล้วจะไม่กลับมาครับ)
5.ไหมละลายPDOสามารถละลายได้ใน 6เดือนถึง 1ปีจริง เพราะมีการทดสอบและวิจัยทางการแพทย์ก่อนแล้วจึงได้จัดอยู่ในกลุ่มที่ละลายได้
ปัจจุบัน ตัวหมอเองร้อยไหมเฉพาะเทคนิคV shapeเท่านั้นครับ ซึ่งถือว่าเห็นผลชัดเจนที่สุดและไม่มีผลข้างเคียงอะไรที่จะต้องกังวลครับ สามารถทำได้ตั้งแต่ข้างละ5เส้นขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ร้อยเองและสภาพความหย่อนคล้อยของแก้มครับ หลังทำ 2-4สัปดาห์จะรู้สึกได้ว่าใบหน้ากระชับขึ้น และอาจจะทำร่วมกับการฉีดโบทอกซ์ก็ได้ครับ
ตัวอย่างการร้อยไหม
http://www.youtube.com/watch?v=yNZacywXMvMสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
รักษ์-คุณคลินิก @โลตัส ทาวน์ อิน ทาวน์
โทร.02-9346185, 02-5381597,086-3551067
รักษ์-คุณคลินิก @รามคำแหง 24:โทร. 02-7186765,02-3186700,0905907884
คอสเดิร์ม คลินิก@นครสวรรค์ : โทร. 056-331700
Website : http://www.ruk-khunclinic.com
Fanpage : http://www.facebook.com/rukkhunclinic
Google Plus : http://gplus.to/rukkhunpage
Facebook : http://www.facebook.com/rukkhunclinic